ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

icon-filter ค้นหารถยนต์แบบละเอียด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

บทความรถยนต์

รีวิวลองขับ MG MAXUS 9 และ ES กรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ขับดีแค่ไหนต้องลอง!

icon 8 มิ.ย. 66 icon 8,774
รีวิวลองขับ MG MAXUS 9 และ ES กรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ขับดีแค่ไหนต้องลอง!
ทริปทดสอบครอบครัว MG EV รถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% หลังจากประสบความสำเร็จจาก MG ZS EV รุ่นแรกสู่รุ่นล่าสุด ตามด้วยรถครอบครัว NEW MG EP และ NEW MG4 ELECTRIC แต่เมื่อตลาดความต้องรถหรูอย่าง MPV เริ่มคึกคักแต่ยังขาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า MG เลยจัด MAXUS 9 ลงสนามก่อนใคร และวันนี้กูรูช้างมีโอกาสได้ร่วมสัมผัสทดลองขับทั้ง MG ES และ"อไลท์เด็ดสุด MAXUS 9 รถ E-MPV สุดหรุราคาเริ่มต้น 2.499 ล้านบาท กับเส้นทางกรุงเทพฯ - เขาใหญ่รวมกว่า 360 กม.
เริ่มออกเดินทางจาก CDC เลียบทางด่วน มู่งหน้าสู่จุดหมายแรกคือ โชว์รูม MG autohaus สระบุรี เพื่อชมสถานี MG SUPER CHARGE แห่งใหม่ ซึ่งนับเป็นการแสดงความมั่นใจให้กับลูกค้าเอ็มจีว่า ซื้อรถไฟฟ้าขับไปท่องเที่ยวหากจุดบริการชาร์จอื่น ๆ เต็มหรือไม่สะดวกก็สามารถแวะชาร์จได้ที่โชว์รูมเอ็มจีได้เสมอครับ และเดินทางต่อไปสู่ร้านอาหาร The Fable Feast Khao Yai และเดินทางกลับ CDC พร้อมด้วยรถ MAXUS 9 ทั้งหมด 3 คันและ ES อีก 3 คัน สื่อมวลชนสลับกันขับและสับเปลี่ยนรถกันในช่วงบ่าย 
 
 
 

MG ES นุ่มนวลเดินสบายไม่โยกเยก แต่เบาะหลังสูงไป! 

เตรียมตัวออกเดินทางได้....กับขาไปจับฉลากได้ MG ES และเลือกนั่งตำแหน่งเบาะหลังก่อน ซึ่งเบาะนั่งมีขนาดใหญ่มากนั่งสบาย แต่มีความสูงทำให้เมื่อนั่งแล้วตัวลอยหัวเกือบติดหลังคา และพื้นวางเท้าก็สูงตาม ทำให้เข่างอ สาเหตุมาจากติดชุดแบตเตอรี่ใต้ท้องรถจึงทำให้เบาะตอนหลังนั่งสูง แต่ก็ทำให้เห็นทัสนวิสัยด้านหน้าชัดเจนขึ้นเพราะหัวหมอนเบาะตอนหน้าไม่บังมุมมอง ก็กลายเป้นมีข้อดีไปอีกแบบครับ
 
 
 
ความนุ่มนวลในตอนหลังนั้น ดีมากด้วยตัวเบาะที่สัมผัสนุ่มสบายรับสรีระ ช่วงล่างไม่โยนมาก ไม่โคลงเคลง และไม่ค่อยมีอาการยวบมากนัก กึ่ง ๆ จะแข็งด้วยซ้ำ ทำให้เมื่อขับขี่เปลี่ยนเลนหรือเข้าทางโค้งไม่ค่อยเวียนหัวเท่าไหร่ และตัวไม่คลอนออกจากเบาะอีกด้วย ส่วนเรื่องความเงียบในห้องโดยสาร มีเพียงเสียงลมที่ผ่านคิ้วกันสาดและยางที่หอนขึ้นมาเท่านั้น เสียงภายนอกอื่น ๆ ถือว่ารับได้ครับ แอร์เย็นฉ้ำ แม้ช่องลมจะอยู่ตรงกลางและต่ำติดพื้น แต่ลมก็ยังส่งผ่านขึ้นมาด้านบนได้ แต่ว่าลมจะตีขึ้นมาผ่านช่วงน่องและขาแทน อันน่าแปลกว่า "แล้วทำไมขยับขึ้นมาอีกหน่อย??" 
 
 
 
 

ขับสนุกแรง หนึบ เนียบนุ่มสบายไม่ต้องปรับตัวเยอะ

พอถึงช่วงเปลี่ยนคนขับได้ลองวิ่งยาว ๆ ดูบางสิ่งแรกคือ ไม่ต้องปรับตัวมากนักในการขับเจ้า ES คันนี้ เพราะใช้วิธีการเหมือนรถน้ำมันปกติ คือ เหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ต ไม่เหมือนกับใน MG4 หรือว่า รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นทั่วไปที่ไม่มีปุ่มสตาร์ต อัตราเร่งการแซงนั้นเป็นแบบสมู้ท มีแรงดึงในช่วงกระแทรกคันเร่งและจะค่อย ๆ น้อยลง แต่ความเร็วจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเร่งได้ดั่งใจไม่รอบรอบเสียงการทำงานก็เงียบ ซึ่งเหมาะกับรถครอบที่ต้องให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ 
 
 
 
ระบบช่วงล่างให้ความแน่นหนึบ ไม่โยนหรือโคลงตัว การควบคุมพวงมาลัยค่อนข้างแม่นย้ำ และมีน้ำหนักเบาในความเร็วต่ำ ที่ความเร็วสูงไม่เบาเกินไป วิสัยทัศน์ด้านหน้ามองได้ชัดเจนกระจอกมองข้างขนาดใหญ่ดูง่าย แต่ว่า.....ท่านั่งขับขี่ยังไม่สบายและเมื่อยมาก โดยเฉพาะตัวแป้นวางพักเท้า ที่สูงและชันมาก ทำให้ขางอเกินไป แม้จะปรับพวงมาลัยเข้าหาตัวและถอยเบาะนั่งให้ห่างแล้วก็ตาม ถือว่าจุดนี้ควรต้องปรับปรุงให้นั่งได้ลงตัวกว่านี้ แต่ก็ยังดีที่ตัวทรงของเบาะนั่งได้สบายและสัมผัสนุ่ม 
 
 
ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ใช้งานค่อนข้างง่าย เช่น สวิตช์ปรับโหมดการขับขี่หรือการรีเจน (KERS) ที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง และสวิตช์เกียร์แบบหมุน การตั้งค่าต่าง ๆ สามารถจำค่าเดิมได้แม้จะดับและสตาร์ตเครื่องใหม่อีกครั้ง อย่างระบบควบคุมรถออกนอกเลนพร้อมดึงกลับที่ไม่จำเป็นต้องเปิด-ปิดบ่อย ๆ และการควบคุมระบบแอร์ที่ใช้งานได้ง่าย นอกจากนั้นการตั้งค่าต่าง ๆ ยังต้องพึ่งหน้าจอกลางอยู่
 
 

180 กม.ขับสบาย ๆ ไม่ต้องชาร์จ!!!  

ในขาไปเขาใหญ่ขับรวดเดียวไม่ต้องชาร์จ ซึ่งตอนที่ออกสตาร์ตนั้นมีแบตฯ เหลืออยู่ที่ 88 เปอร์เซ็นต์ เมื่อขับมาจนถึงปลายทางด้วยระยะทางราว ๆ 180 กม. เหลือ 25 เปอร์เซ็นต์กับระยะทางที่เหลือ 86 กม นับว่าเพียงพอ แต่ในความจริงแล้วควรจะต้องชาร์จกลางทางซัก 1 รอบ เผื่อปลายทางหาที่ชาร์จไม่ได้ และในขากลับนั้น ทีมงาน MG ก็จะต้องทยอยนำรถชาร์จทั้งหมด จึงจะขับกลับกรุงเทพฯ ได้ แต่ด้วยระบบการรับไฟชาร์จที่รวดเร็วของรถทั้ง MAXUS 9 และ ES ทำให้ใช้เวลาชาร์จเร็วแบบ DC ต่อคันราว ๆ 30 นาทีเท่านั้น 
 
 

สรุปจากการขับสั้น ๆ ครึ่งวัน

MG ES นับเป็นรถที่ให้ความนุ่มนวล สบาย ขับง่าย ไม่ต้องปรับตัวเยอะ และบางครั้งก็ไม่ค่อยรู้สึกว่า "นี่คือรถไฟฟ้าล้วน" ยังมีฟิวลิ่งการขับขี่ที่คล้ายรถยนต์ทั่วไป มีน้ำหนักพวงมาลัย น้ำหนักคันเร่งที่ไม่ไวเกินไปควบคุมง่าย สวิตช์ควบคุมต่าง ๆ ยังพอเข้าใจง่าย และก็ยังขับสนุกอีกด้วย แนะนำว่าใครหารถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบขับง่ายไม่สูงมาก กว้างนั่งสบาย (แม้คนขับจะนั่งยากกว่า) ราคาดีจะสายพ่อบ้านกับเหมาะบางครั้งอยากซิ่งก็มันครบในคันเดียวเลยครับ ราคา 959,000 บาท ถือว่าระดับกลาง ๆ ไม่สูงเกินไปนัก 
 
 

MAXUS 9 นั่งสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ แรงเงียบ ทรงตัวดี 

ในขากลับสลับรถขับได้ลอง MAXUS 9 ซึ่งในทริปนี้มี 2 ย่อยทั้ง X และ V แต่คันที่ได้ทดสอบนั้นเป็นรุ่นเริ่มต้นหรือ X ราคา 2.499 ล้านบาท แตกต่างกันเพียงแค่ กระจกมองหลังไม่มีกล้องแทนสายตาเป็นกระจกตัดแสงอัตโนมัติธรรมดา, เบาะหนังไม่แท้เป็นแบบสังเคราะห์, ลำโพง 8 ตัว (รุ่น V 12 ตัว), ช่อง USB 7 จุด (รุ่น V 9 จุด), เบาะคู่หน้าไม่มีระบบนวด, เบาะแถวสองปรับอุณหภูมิอุ่นไม่ได้ และสีเทาหลังคาดำมีเฉพาะรุ่น V นอกนั้นเหมือนกันทั้งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่แบบลิเธียมไออน ความจุแบตเตอรี่ 90 กิโลวัต์-ชั่วโมง และระยะทางที่เคลมในโบรชั่ว 540 ตามค่า NEDC โดยระบบทั้งหมดเป็นเวอร์ชั่น E02 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแล้ว  
 
 
 
เริ่มด้วยตำแหน่งคนขับที่มีเบาะนั่งนุ่มสบาย บางคนอาจรู้สึกยวบ แต่โดยรวมแล้วนั่งสบายมาก ท่าขับก็ลงตัวคล้ายการนั่งเก้าอี้ แต่ก็มีระดับต่ำไม่สูงมาก วางขาได้พอดีทั้งแป้นคันเร่ง เบรกและที่พักเท้า พวงมาลัยเบาสบาย แต่ในการขับครั้งแรกต้องปรับตัวพอสมควรเลยครับ เริ่มจากการสตาร์ตรถโดยไม่ต้องใช้ปุ่ม เพียงเปิดประตู ระบบแอร์ก็ทำงานล้ว และเมื่อต้องการออกรถก็แค่เหยียบเบรกเลือกตำแหน่งเกียร์ที่ก้านด้านหลังพวงมาลัยเท่านั้น แต่ข้อเสียคือ เมื่อจะลงจากรถชั่วคราว เมื่อเปิดประตูระบบจะดับทันที จึงต้องเข้าเมนูบนจอกลางเพื่อเลือกโหมดการเปิดระบบเอาไว้แทน อาจจะยุ่งยาก แต่ถ้าหากได้ใช้งานบ่อย ๆ ก็จะคุ้นเคยไปเองครับ
 
 
 
การตอบสนองคันเร่ง ไม่ว่าตั้งระบบรีเจนฯ ไฟ หรือ KERS ไว้ที่ระดับ 1, 2 หรือ3 ก็จะให้อัตรเร่งที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แทบไม่รู้สึก แต่เมื่อปล่อยคันเร่งแล้วการเจนฯ ในระดับ 3 จะหนืดมากที่สุด และ 2 กับ 1 รองลงมา นอกจากนี้ในการขับขี่โหมด Normal, Eco หรือ Sport นั้นจะมีความแตกต่างที่รู้สึกได้ก็คือโหมด Eco ที่จะเร่งแล้วหนืด ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อประหยัดพลังงาน ส่วนอีก 2 โหมดนั้น จากที่ได้ทดลองแล้ว ไม่ค่อยแตกต่างมากนัก แต่พวงมาลัยยังคงรู้สึกบ้างว่าโหมด Sport จะหนืด ๆ หนักกว่าโหมดอื่น ๆ 
 
 
อัตราเร่งออกตัวเร่งแซงดีมากนับว่าดีกว่าในกลุ่มระดับนี้ เพราะมีกำลังเยอะไม่รอรอบ พร้อมจะพุ่งไปทันทีที่กดคันเร่ง แต่ก็ไม่ได้กระชากจนตกใจ และยังให้ความสมู้ทราบรื่นอยู่ ตามคอนเซปต์รถ MPV ที่ต้องนั่งสบายและการขับขี่ต้องนุ่มนวล ผู้โดยสารไม่รู้สึกถึงอาการกระตุกกระชาก แถมช่วงล่างนุ่มและยังมีความหนึบนิด ๆ ทำให้ไม่โคลงไม่โยนและไม่เวียนหัวอีกด้วย  
 
 
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่น่าสนใจคือ การควบคุมรถออกนอกเลน และควบคุมความเร็วแปรผัน ซึ่งต้องบอกว่า โดยปกติค่ารถตั้งค่าระบบความปลอดภัยเริ่มต้นเสมอ ไม่จำค่าล่าสุด และหนึ่งในนั้นคือ ระบบตรวจจับป้ายเตือนจราจราด้วยกล้อง ที่จะคอยเตือนเมื่อมีป้ายกำกับความเร็ซ และโชว์บนมาตรวัด ที่น่าจะเป็นการดีให้ผู้ขับขี่ระวัง แต่เมื่อเปิดระบบควบคุมความเร็วแปรผันเมื่อไหร่ แม้ตั้งความเรวซเอาไว้ หากระบบตรวจจับป้ายที่มีความเร็ซต่ำกว่าที่เราตั้งค่าเอาไว้ รถยนต์จะถูกลดความเร็วลงทันที!!!อันนี้น่าตกใจและอาจเกิดอันตรายได้ หากลดความเร็วมากเกินไป รถคันด้านหลังอาจจะเข้าใจผิดว่า "เบรกทำไม? ข้างหน้าก็โล่ง" แม้จะมีไฟเบรกก็ตาม แต่สุดท้ายก็น่าจะไม่เวิร์คนัก จึงแนะนำว่าควรปิดระบบเตือนป้ายจราจรหรือว่าใช้ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอย่างระมัดระวังหรืออาจจะไม่ต้องใช้ไปเลยจะดีกว่าครับ
 
 
 
 
 
 
จุดที่ยังคาใจใน MAXUS 9 แม้หลายอย่างทำออกมาได้ดี แต่ก็มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ยังไม่เหมาะกับการใช้งานจริง เช่น ระบบตรวจจับป้ายจราจราที่ได้เขียนไว้ หรือ เบาะนั่งตอนสองที่มีผิวสัมผัสแข็งกว่าเบาะคู่หน้า ไม่มีระดับคงเหลือของแบตเตอรี่บนมาตรวัด มีเพียงระยะทางที่วิ่งได้เท่านั้น อันนนี้นับว่าทำให้การวางแผนใช้งานอาจจะยากเข้าไปอีก เพราะว่าระยะทางจะถูกแปรผันเข้ากับลักษณะการขับขี่และสภาพการจราจร จึงเดายากกว่าการโชว์ระดับแบตฯ ที่จะรู้ทันทีว่าเมื่อต่ำลงมาถึง 30 เปอร์เซ็นต์ควรชาร์จได้แล้ว แต่ถ้าระยะทางที่เหลือไม่สามารถทราบเลยว่าแบตฯ เหลือกี่เปอร์เซ็นต์ควรชาร์จเมื่อไหร่ แต่ถ้าทาง MG ไม่สามารถจะปรับในส่วนนี้ได้ก็คงต้องดูจากระยะทางไว้ก่อน "หากเหลือต่ำ 150 กม.ก็เตรียมแผนชาร์จได้เลยไม่ต้องรอ" 
 
 

นั่งตอนที่สองสบาย ไม่โคลง แต่เข้มขัดรั้งคอ!

เมื่อสลับมานั่งตอนที่สองตัวเบาะให้ความสบายนุ่มนวล แต่ก็แอบแข็งกว่าเบาะคู่หน้า ระบบช่วงล่างที่แน่นหนึบทำให้ไม่ค่อยไม่โยนตัวหรือเหวี่ยนเท่าไหร่ และไม่กระเด้งยวบยาบมากนัก ที่สำคัญมีอาการโคลงเคลงน้อยมาก และระบบขับเคลื่อนที่สมู้ท จึงทำให้ไม่ว่าคนขับจะเร่งจะยกคันเร่ง ก็ไม่เมารถเพราะนุ่มนวลมาก ตัวที่นั่งมีระบบอำนวยความสะดวกเพียบทั้ง เท่าแขน โต๊ะวางของ ช่อง USB ที่วางเท้า และแผ่นรองน่อง แต่ต้องถอยเบาะเยอะ ๆ จึงจะวางเท้าและนั่งได้สบายครับ ระบบแอร์เย็นตลอดทั้งคัน แต่ในจุดที่ยังต้องไม่ทำการบ้านเพิ่มคือ ระดับของเข็มขัดนิรภัยเบาะตอนที่สองนั้นอยู่ต่ำมาก หากผู้โดยสารสูงเกิน 165 ซม. สายเข็มจะรั้งบริเวณคอจนรู้สึกอึดอัดและจำเป็นต้องคาดตลอดเพราะมีระบบเตือนครับ
 
 
 

สรุปจากการขับสั้น ๆ ครึ่งวัน

MG MAXUS 9 เหมาะกับใครต้องการประหยัดค่าเดินทาง ลดภาระ อยากลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ และชอบฟิวลิ่งขับมันสนุกแรง ๆ ในคราบรถใหญ่ ไม่รอรอบ ไม่รอบระบบไฮบริด ไม่รอเปลี่ยนเกียร์ ไม่ต้องดูแลอะไหล่สิ้นเปลืองมากมาย และระบบความปลอดภัยเยอะมาก แถมด้วยเบาะนั่งที่สะดวกสบายพร้อมกับ ระบบไฟฟ้าทั้งคัน ราคาอยู่ระดับกลาง ๆ แต่อาจจะถูกกว่าเจ้าตลาดพอสมควร ซึ่งหากมองว่าได้รถครอบครัวคันใหญ่ใช้ไฟฟ้า ไม่ง้อน้่ำมัน จอดติดเครื่องรอรับ-ส่งลูกหลายได้เป็นวันสบาย ๆ และไม่มีมลพิษ บวกกับสมรรถนะความแรงที่เทียบเท่าหรือมากกว่าเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร NA (ไม่มีเทอร์โบ)ในรถระดับเดียวกันหรือว่าจะเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบแรง ๆ เทอร์โบไฮบริดที่ต้องมีแรงม้าแรงบิดมาก ๆ ทำให้กินจุตามไปด้วย ถึงจะได้พละกำลังที่ดีเทียบเท่ามอเตอร์ไฟฟ้าระดับนี้ โดยที่ค่าตัวไม่สูงมากเกินไปเริ่มต้นที่รุ่น X ราคา 2,499,000 บาท และรุ่น V ราคา 2,699,000 บาท 
 
 
สุดท้ายต้องไปทดลองขับลองนั่งและถามดูว่า "พร้อมที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง" แต่ถ้าอยากจะก้าวข้ามรถยนต์ไฮบริดก็ไม่ต้องกำงวลเพราะนอกจากจะได้แท่นชาร์จติดตั้งที่บ้านแล้ว ยังมีจุดบริการชาร์จมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้งานง่าย และทาง MG ยังมีบริการ MG SUPER CHARGE ในโชว์รูมอีกกว่า 140 แห่งทั่วประเทศไทยเลยครับ   
 
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง mg NEW MG ES NEW MG MAXUS9
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่

ตารางผ่อนดาวน์ MG ES

คำนวณสินเชื่อเพื่อออกรถยนต์
ตัวช่วยให้คุณพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อรถ
ดาวน์ ยอดเงินดาวน์
(บาท)
จำนวนงวดผ่อน (เดือน)
48 60 72 84

รถยนต์เปิดตัวล่าสุด

ดูทั้งหมด

บทความรถยนต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)